วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2550

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2550

พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell)

ประวัติความเป็นมาขององค์กร

ความเป็นมาของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 ซึ่งมีผลบังคับใช้วันที่ 30 ธันวาคม 2534 จึงอาจกล่าวได้ว่าได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อย่างไรก็ตามในการจัดตั้ง (สวทช.) นั้นเป็นการรวม 4 หน่วยงานที่มีอยู่เข้าด้วยกัน โดยทั้ง 4 หน่วยงานได้เริ่ม ดำเนินการมาก่อนหน้าแล้ว ดังนี้
พ.ศ. 2526 ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
พ.ศ. 2528 ศูนย์การวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนา
พ.ศ. 2529 ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

ตามหลักการและเหตุผลท้ายพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 ระบุไว้ชัดเจนถึงมูลเหตุการจัดตั้ง สวทช. ว่า

"การที่รัฐบาลจะนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเพิ่มสมรรถนะทางวิศวกรรมและสมรรถนะทางเทคโนโลยีอื่นๆ ตลอดจนการบริการทางเทคโนโลยีด้านต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย จึงจะสามารถนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาการผลิต การบริการ และกิจกรรมต่อเนื่องต่างๆ ทั้งทางอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม รวมทั้งช่วยให้ภาคการผลิตสามารถรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนั้นการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องครอบคลุมกิจกรรมหลายประเภทและต้องอาศัยทุนจำนวนมากทั้งจากภาครัฐบาลและจากแหล่งทุนอื่นทั้งภายในและต่างประเทศด้วย การระดมทุนและการบริหารทุนเพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ สำหรับพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนี้ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ ไม่อาจอาศัยองค์กรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้ว แต่จำเป็นต้องมีองค์กรที่มีความเป็นอิสระ และเป็นองค์กรที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความชำนาญในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชนให้บรรลุประโยชน์ร่วมสูงสุดต่อการพัฒนาประเทศ การส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาครัฐบาลและภาคเอกชน และการจัดตั้งกองทุนนี้จะครอบคลุมถึงการจัดตั้งศูนย์แห่งชาติเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีเฉพาะสาขา และการจัดตั้งองค์กรพิเศษอื่น เพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเฉพาะด้านด้วย”
พระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2534เป็นปีที่ 46 ในรัชกาลปัจจุบัน

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ เป็นพลังงานที่สะอาด ปราศจากมลพิษ และเป็นพลังงานที่มีศักยภาพสูง ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถจำแนกออกเป็น 2 รูปแบบคือ
1. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
2. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อน

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า

ระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ แบ่งออกเป็น 3 ระบบ คือ
1. เซลล์แสงอาทิตย์แบบอิสระ(PV Stan Alone System)
2. เซลล์แสงอาทิตย์แบบต่อกับระบบจำหน่าย (PV Grid Connected System)
3. เซลล์แสงอาทิตย์แบบผสมผสาน (PV Hybrid System)

เซลล์แสงอาทิตย์แบบอิสระ(PV Stan Alone System)
เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ได้รับการออกแบบสำหรับใช้งานในพื้นที่ชนบทที่ไม่มีระบบสายส่งไฟฟ้า อุปกรณ์ระบบที่สำคัญประกอบด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ อุปกรณ์ควบคุมการประจุแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เปลี่ยนระบบไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับแบบอิสระ

เซลล์แสงอาทิตย์แบบต่อกับระบบจำหน่าย (PV Grid Connected System)

เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ถูกออกแบบสำหรับผลิตไฟฟ้าผ่านอุปกรณ์เปลี่ยนระบบไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับเข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้าโดยตรง ใช้ผลิตไฟฟ้าในเขตเมือง หรือพื้นที่ที่มีระบบจำหน่ายไฟฟ้าเข้าถึง อุปกรณ์ระบบที่สำคัญประกอบด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ อุปกรณ์เปลี่ยนระบบไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับชนิดต่อกับระบบจำหน่ายไฟฟ้า

เซลล์แสงอาทิตย์แบบผสมผสาน (PV Hybrid System)

เป็นระบบผลิตไฟฟ้าที่ถูกออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าอื่นๆ เช่น ระบบเซลล์แสงอาทิตย์กับพลังงานลม และเครื่องยนต์ดีเซล ระบบเซลล์แสงอาทิตย์กับพลังงานลม และไฟฟ้าพลังน้ำ เป็นต้น โดยรูปแบบระบบจะขึ้นอยู่กับการออกแบบตามวัตถุประสงค์โครงการเป็นกรณีเฉพาะ

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อน

การผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และการอบแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

การผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. การผลิตน้ำร้อนชนิดไหลเวียนตามธรรมชาติ
2. การผลิตน้ำร้อนชนิดใช้ปั๊มน้ำหมุนเวียน
3. การผลิตน้ำร้อนชนิดผสมผสาน

การผลิตน้ำร้อนชนิดไหลเวียนตามธรรมชาติ

เป็นการผลิตน้ำร้อนชนิดที่มีถังเก็บอยู่สูงกว่าแผงรับแสงอาทิตย์ ใช้หลักการหมุนเวียนตามธรรมชาติ

การผลิตน้ำร้อนชนิดใช้ปั๊มน้ำหมุนเวียน

เหมาะสำหรับการใช้ผลิตน้ำร้อนจำนวนมาก และมีการใช้อย่างต่อเนื่อง เช่น โรงแรม โรงพยาบาล และอุตสาหกรรมบางประเภท

การผลิตน้ำร้อนชนิดผสมผสาน

เป็นการนำเทคโนโลยีการผลิตน้ำร้อนจากแสงอาทิตย์มาผสมผสานกับความร้อนเหลือทิ้งจากการระบายความร้อนของเครื่องทำความเย็น หรือเครื่องปรับอากาศ โดยผ่านอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน

การอบแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันมีการยอมรับใช้งาน 3 ลักษณะ คือ
1. การอบแห้งระบบ Passive
2. การอบแห้งระบบ Active
3. การอบแห้งระบบ Hybrid

การอบแห้งระบบ Passive

คือระบบที่เครื่องอบแห้งทำงานโดยอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์และกระแสลมที่พัดผ่าน ได้แก่

ก. เครื่องตากแห้งโดยธรรมชาติ เป็นการวางวัสดุไว้ที่กลางแจ้ง อาศัยความร้อนจากแสงอาทิตย์และกระแสลมในบรรยากาศในการระเหยความชื้นออกจากวัสดุ

ข. ตู้อบแห้งแบบได้รับแสงอาทิตย์โดยตรง วัสดุที่อบจะอยู่ในเครื่องอบแห้งที่ประกอบด้วยวัสดุที่โปร่งใส ความร้อนที่ใช้อบแห้งได้มาจากการดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตย์ และอาศัยหลักการขยายตัวเอง อากาศร้อนภายในเครื่องอบแห้งทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศเพื่อช่วยถ่ายเทอากาศชื้น

ค. ตู้อบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์แบบผสม เครื่องอบแห้งชนิดนี้วัสดุที่อยู่ภายในจะได้รับความร้อน 2 ทาง คือ ทางตรงจากดวงอาทิตย์และทางอ้อมจากแผงรับรังศรีดวงอาทิตย์ ทำให้อากาศร้อนก่อนที่จะผ่านวัสดุอบแห้ง

การอบแห้งระบบ Active

คือระบบอบแห้งที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และยังต้องอาศัยพลังงานในรูปแบบอื่นๆ ช่วยในเวลาที่มีแสงอาทิตย์ไม่สม่ำเสมอหรือต้องการให้ผลิตผลทางการเกษตรแห้งเร็วขึ้น เช่น ใช้ร่วมกับพลังงานเชื้อเพลิงจากชีวมวล พลังงานไฟฟ้า วัสดุอบแห้งจะได้รับความร้อนจากอากาศร้อนที่ผ่านเข้าแผงรับแสงอาทิตย์ และการหมุนเวียนของอากาศจะอาศัยพัดลมหรือเครื่องดูดอากาศช่วย


การอบแห้งระบบ Hybrid

เป็นระบบอบแห้งที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และยังต้องอาศัยพลังงานในรูปแบบอื่นๆ ช่วยในเวลาที่มีแสงอาทิตย์ไม่สม่ำเสมอ หรือต้องการให้ผลิตผลทางการเกษตรแห้งเร็วขึ้น เช่น ใช้ร่วมกับพลังงานเชื้อเพลิงจากชีวมวล พลังงานไฟฟ้า วัสดุอบแห้งจะได้รับความร้อนจากอากาศร้อนที่ผ่านเข้าแผงรับแสงอาทิตย์ และการหมุนเวียนของอากาศจะอาศัยพัดลมหรือเครื่องดูดอากาศช่วย

ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีต่อสังคม

โดยทั่วๆ ไปการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์อาจแบ่งเป็น 2 ลักษณะสำคัญ คือ
(1) การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของความร้อน
(2) การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

สำหรับประเทศที่เจริญแล้วทางด้านเทคโนโลยีและมีเศรษฐกิจดีดังเช่น สหรัฐอเมริกา โอกาสที่จะใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสองลักษณะมีมาก และขณะนี้ประเทศที่เอ่ยถึงนี้ก็กำลังทุ่มเทความรู้ความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกรและทุนทรัพย์ในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์ ในประเทศไทยเรานั้นเป็นที่น่ายินดีว่าคนไทยกำลังตื่นตัวในเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์ ในปัจจุบันนี้มีโครงการวิจัยการใช้ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ การประดิษฐ์คิดค้นสร้างอุปกรณ์เครื่องมือใช้ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสำหรับชีวิตประจำวัน และทางด้านเกษตรกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก และกำลังได้รับความสนใจ สนับสนุนจากรัฐบาลเป็นอย่างดี แต่การใช้ประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยก็มี ข้อจำกัดสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง ซึ่งผู้สนใจในแหล่งพลังงานทดแทนนี้ควรตระหนักนั่นคือ การใช้
ประโยชน์พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่อาจจะกล่าวได้ว่า ทั้งหมดล้วนแต่เป็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรูปของความร้อนเท่านั้น มิใช่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ไปผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นรูปของพลังงานที่สำคัญที่สุด สะดวกสบายต่อการใช้ที่สุด และมีบทบาทมากที่สุด สำหรับสังคมมนุษย์ ทั้งในวงการอุตสาหกรรมและชีวิตประจำวัน

ในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการนำเอาความร้อนของแสงอาทิตย์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ในการสร้างเครื่องทำน้ำร้อนแสงอาทิตย์สำหรับโรงพยาบาล โรงแรม การทำเครื่องต้มน้ำแสงอาทิตย์ การทำเตาแสงอาทิตย์หรือเตาสุริยะ การทำเครื่องกลั่นน้ำแสงอาทิตย์ การทำเครื่องอบแห้งผลิตผลเกษตรกรรม และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งเป็นการนำเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้โดยตรงที่มิต้องอาศัยเทคโนโลยีสูงนักหรือสลับซับซ้อนนัก

โดยทั่วๆ ไปในปัจจุบันนี้การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทำได้ 2 วิธีคือ การเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าโดยตรง ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของเซลล์สุริยะหรือโซล่าร์เซลล์ (Solar Cell) ซึ่งอาศัยวัสดุสำคัญประเภทสารกึ่งตัวนำ เช่น ซิลิกอน หรือสารประกอบกึ่งตัวนำ เช่น กอลเลียมอาร์เซไนด์ ส่วนอีกวิธีหนึ่งของ การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ก็คือ ใช้ความร้อนของแสงอาทิตย์ไปต้มน้ำหรือทำให้ก๊าซร้อน แล้วใช้ไอน้ำร้อนหรือก๊าซร้อนไปทำให้เทอร์ไบน์หรือกังหันใบพัดของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมุนอีกต่อหนึ่ง โดยสรุปแล้วถ้าจะผลิตไฟฟ้าในระดับใหญ่ถึงขั้นเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์แล้วก็ทำได้ 2 วิธี คือ ใช้เซลล์สุริยะจำนวนมากหรือ ใช้แสงอาทิตย์เป็นปริมาณมากไปต้มน้ำหรือทำให้ก๊าซร้อน แล้วไปทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานอีกต่อหนึ่ง ซึ่งในการนี้จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูง สลับซับซ้อนและราคาการลงทุนชั้นแรกสูงมาก

สินค้าและบริการ

ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี ต่อตั้งขึ้นโดยมุ่งมั่นเป็นองค์กรที่สามารถนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาใช้เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศ รวมทั้งสร้างความสามารถในการพัฒนาและพึ่งตนเองให้กับสังคมและชุมชนไทย โดยมีภารกิจหลักคือ

1) พัฒนาความสามารถทางด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยผ่านการบริการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค การนำทรัพย์สินทางปัญญาของ สวทช. และเทคโนโลยีจากแหล่งอื่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน

2) เพิ่มจำนวนบริษัทและผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาระดับเทคโนโลยีฐานความรู้ โดยผ่านบริการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการดำเนินการวิจัยภายในอุทยานวิทยาศาสตร์และศูนย์บ่มเพาะเทคโนโลยี


3) ดำเนินการศึกษานโยบายในเชิงยุทธศาสตร์ และกำหนดแนวทางด้านนโยบาย (Policy agendas) แผนยุทธศาสตร์ และแนวทางสร้างความสามารถทางด้านเทคโนโลยีของประเทศเพื่อมุ่งสู่ เศรษฐกิจและสังคมฐานความรู้ และ

4) บ่มเพาะสถาบันและโปรแกรมทางด้านเทคโนโลยีของ สวทช. ที่อยู่ภายใต้วาระแห่งชาติ (National Agenda) เช่น สถาบันวิจัยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ โปรแกรมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรระดับแนวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สินค้า

Solarcell 3V 100mA
Solarcell ขนาดเล็ก 3V 100mA ขนาด 5x5 cm เหมาะสำหรับการใช้งานใน Project ขนาดเล็ก เช่น เครื่องชาร์จถ่านด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ ชาร์จมือถือด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โคมไฟสนาม ชุดทดลองการเรียนรู้การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า



Solarcell 2.4V 200mA
solarcell ขนาดเล็ก 2.4V 200mA ขนาด 5.7x11.5 cm เหมาะสำหรับการใช้งานใน Project ขนาดเล็ก เช่น เครื่องชาร์จถ่านด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ ชาร์จมือถือด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โคมไฟสนาม ชุดทดลองการเรียนรู้การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า



Solarcell 5.1V 70mA
solarcell ขนาดเล็ก 3V 100mA ขนาด 6x8 cm เหมาะสำหรับการใช้งานใน Project ขนาดเล็ก เช่น เครื่องชาร์จถ่านด้วย พลังงานแสงอาทิตย์ ชาร์จมือถือด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โคมไฟสนาม ชุดทดลองการเรียนรู้การแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานไฟฟ้า



Solarcell 5W
แผง solarcell ขนาด 5W แบบ เคลือบด้วย กระจกนิรภัย และกรอบอลูมิเนียม เหมาะกับการนำไปใช้ชาร์จแบตเตอรี่ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แบตเตอรี่สำหรับเดินป่า โคมไฟถนน สามารถพกพาไปได้สะดวก



Solarcell 10W
แผง solarcell ขนาด 10W แบบ เคลือบด้วย กระจกนิรภัย และกรอบอลูมิเนียม เหมาะกับการนำไปใช้ชาร์จแบตเตอรี่ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แบตเตอรี่สำหรับเดินป่า โคมไฟถนน สามารถพกพาไปได้สะดวก



Solarcell 40W
แผง solarcell 40W แบบ ฟิมล์บางอะมอร์ฟัส ให้ประสิทธิภาพการแปลง พลังงานไฟฟ้าโดยเฉลี่ยสูง ราคาย่อมเยา กรอบเป็นอะลูมิเนียมง่ายต่อการติดตั้ง รับประกันสินค้าทุกแผง




Solarcell 123W
แผง solarcell ขนาด 123W แบบ ผลึกรวม เคลือบด้วย กระจกนิรภัย และกรอบอลูมิเนียม เหมาะกับการนำไปสำหรับ เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำหนักเบา ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานไฟฟ้าสูง อายุการใช้งานยาวนาน 25-30 ปี และการรับประกันระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี


Solarcell 78W
แผง solarcell ขนาด 78W แบบ ผลึกรวม เคลือบด้วย กระจกนิรภัย และกรอบอลูมิเนียม เหมาะกับการนำไปสำหรับ เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำหนักเบา ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานไฟฟ้าสูง อายุการใช้งานยาวนาน 25-30 ปี และการรับประกันระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี

ข้อดีและข้อด้อยของพลังงานแสงอาทิตย์

ข้อดี


ดวงอาทิตย์ทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกแตกต่างกัน เขตต่างๆ ของโลกที่สำคัญๆ คือ
เขตร้อน เขตอบอุ่น และเขตหนาว เพราะเขตร้อนได้รับแสงจากดวงอาทิตย์ที่มีระยะทางสั้นที่สุด จึงทำ
ให้ร้อนที่สุด ส่วนเขตอบอุ่น เขตหนาว ระยะของแสงจะยาวขึ้นไปตามลำดับ

ดวงอาทิตย์ทำให้เกิดการหมุนเวียนของกระแสอากาศ ในเวลาเดียวกันแต่ละเขตแต่ละถิ่นจะได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากันและระบายความร้อนไม่เท่ากัน เมื่ออากาศ ณ ที่แห่งหนึ่งได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์จะมีคุณสมบัติเบาขยายตัวลอยสูงขึ้น ณ ที่อีกแห่งหนึ่งมวลอากาศเย็น ซึ่งมีความหนาแน่นมากกว่าเคลื่อนตัวเข้ามาแทนที่ ขณะที่มวลอากาศที่เย็นกว่าเคลื่อนตัวมาแทนที่ เราเรียกว่า “ลม” หรือการหมุนเวียนของกระแสอากาศ และแต่ละแห่งของโลกจะมีอุณหภูมิแตกต่างกันตามเขตร้อน เขตอบอุ่นเขตหนาว จะมีลมประจำปีคือ ลมมรสุม ลมตะวันตก ลมขั้วโลก ตามสถานที่เฉพาะถิ่นจะมีลมบก ลมทะเลลมว่าว ลมตะเภา เป็นต้น แต่ลมภูเขา ลมบก ลมทะเล เกิดจากการรับความร้อนและการคายความร้อนไม่เท่ากัน

ดวงอาทิตย์ทำให้เกิดวัฏจักรของน้ำ วัฏจักรของน้ำทำให้เกิดชีวิตเกิดฝน เกิดเมฆหมอก หยาดน้ำค้าง ไอน้ำในบรรยากาศ หรืออาจกล่าวได้ว่า วัฏจักรของน้ำทำให้เกิดชีวิตและสิ่งแวดล้อม วัฏจักรของน้ำเกิดจาก ขณะที่บรรยากาศร้อยขยายตัวลอยขึ้นเบื้องบนพาไอน้ำไปด้วย และในเงื่อนไขของอุณหภูมิที่ต่าง ๆ กัน รวมทั้งสถานการณ์สิ่งแวดล้อมอื่น ๆ เช่น ลมกระแสอากาศ จึงทำให้เกิดเมฆฝน พายุฝนฟ้าคะนอง ลูกเห็บคุณสมบัติของน้ำจะรับความร้อนช้าคายความร้อนเร็ว คุณสมบัติของดินจะรับความร้อนเร็วกว่าน้ำคายความร้อนช้ากว่าน้ำคุณสมบัติของหินภูเขา จะรับความร้อนเร็วกว่าดินคายความร้อนเร็วกว่า

ข้อด้อย

รังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์ รังสีอัลตราไวโอเลตเป็นรังสีที่ทำอันตรายต่อมนุษย์ เช่น โรคต้อกระจก โรคภูมิแพ้ ผิวหนังที่ได้รับรังสีอัลตราไวโอเลตนาน ๆ อาจเป็นมะเร็งได้ ในบรรยากาศมีชั้นโอโซน (Ozone) ประกอบด้วยออกซิเจน 2 อะตอม (O+O) ชั้นโอโซนจะมีความหนาพอสมควร ทำหน้าที่รับรังสีอัลตราไวโอเลตไว้ รังสีที่เหลือลงมายังโลกมีเพียงส่วนน้อยไม่ทำอันตรายต่อมนุษย์

สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (Cholo Fluorocabons) หรือซีเอฟซี (CFC)เป็นสารที่มนุษย์ใช้เกี่ยวข้องกับเครื่องทำความเย็นและโฟม สารเฮลโรน (Halons) ซึ่งมีธาตุจำพวกคลอรีน (Cl) โบรมีน (Br) สารไนตรัสออกไซด์ สารเหล่านี้มนุษย์มีส่วนทำให้เกิดมากขึ้นในบรรยากาศ มีผลทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำลายชั้นโอโซน ทำให้ชั้นโอโซนบางลงและเมื่อชั้นโอโซนบางลงทำให้รังสีอัลตราไวโอเลตทะลุผ่านมายังผิวโลกได้มาก ผลคืออุณหภูมิโลกร้อนขึ้นจึงเกิดอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิต

สรุป

พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ เป็นพลังงานที่สะอาด ปราศจากมลพิษ และเป็นพลังงานที่มีศักยภาพสูง ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถจำแนกออกเป็น 2 รูปแบบคือ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อน


เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นพลังงานทดแทนประเภทหมุนเวียนที่ใช้แล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ เป็นพลังงานที่สะอาด ปราศจากมลพิษ และเป็นพลังงานที่มีศักยภาพสูง ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สามารถจำแนกออกเป็น 2 รูปแบบคือ
1. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
2. พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตความร้อน

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า คือ ระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ แบ่งออกเป็น 3 ระบบ คือ
1. เซลล์แสงอาทิตย์แบบอิสระ(PV Stan Alone System)
2. เซลล์แสงอาทิตย์แบบต่อกับระบบจำหน่าย (PV Grid Connected System)
3. เซลล์แสงอาทิตย์แบบผสมผสาน (PV Hybrid System)

การผลิตน้ำร้อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. การผลิตน้ำร้อนชนิดไหลเวียนตามธรรมชาติ
2. การผลิตน้ำร้อนชนิดใช้ปั๊มน้ำหมุนเวียน
3. การผลิตน้ำร้อนชนิดผสมผสาน

การอบแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ปัจจุบันมีการยอมรับใช้งาน 3 ลักษณะ คือ
1. การอบแห้งระบบ Passive
2. การอบแห้งระบบ Active
3. การอบแห้งระบบ Hybrid

ถ้าจะผลิตไฟฟ้าในระดับใหญ่ถึงขั้นเป็นโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์แล้วก็ทำได้ 2 วิธี คือ ใช้เซลล์สุริยะจำนวนมากหรือ ใช้แสงอาทิตย์เป็นปริมาณมากไปต้มน้ำหรือทำให้ก๊าซร้อน แล้วไปทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าทำงานอีกต่อหนึ่ง ซึ่งในการนี้จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีค่อนข้างสูง สลับซับซ้อนและราคาการลงทุนชั้นแรกสูงมาก

บทความ HP Company

1 ประวัติความเป็นมา

Dave Packard กล่าวว่า

พนักงานต้องทำงานร่วมกันเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันและหลีกเลี่ยงการทำงานซ้อนวัตถุประสงค์เพื่อที่ให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด

HP ต่างจากบริษัทอื่นๆ บริษัทสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคทุกรูปแบบทั้งรายบุคคล ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ถึงหน่วยธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งหน่วยงานเอกชนโดยวิธีการทางการเป็นผู้นำทางการตลาดที่ออกแบบ Solution ตอบสนองตามความต้องการของแต่ละบุคคล

งบการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ HP แต่ละปีสูงกว่า $ 4 billion เพื่อการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ เทคโนโลยี และ solution ใหม่ บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ได้จดลิขสิทธิเฉลี่ยวันละ 11 ชนิดทั่วโลก ห้อง lab ของ HP มีการวิจัยเพื่อการพัฒนา สร้างสินค้าเทคโนโลยีใหม่เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตของลูกค้า และการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ

ก่อนการควบรวม Compaq โตได้ยากหลังแม้จะเข้าไปซื้อ Digital ขณะที่ HP ก็พยายามจะโตจากภายในแต่ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน ทั้ง 2 บริษัทพยายามปรับตัวให้เข้ากับการควบรวมกิจการ และต้องปรับเข้ากับผู้นำใหม่ด้วย (Fiorina และ Capellas) การควบรวมหมายถึงสินค้า เทคโนโลยี ช่องทางการจัดจำหน่าย บริการ สิ่งอำนวยความสะดวกและงานต้องมีการทับซ้อนกันด้วย กำลังใจพนักงานเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของการควบรวมเพราะต้องให้พนักงานออกถึง 15,000 ตำแหน่ง บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนไปได้เพียง $2.5 billion ในปี 2004 ซึ่งคิดเป็นเพียง 3%ของค่าใช้จ่ายการควบรวมกิจการ

บริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดเริ่มต้นการควบรวมกิจการกันในเดือนกันยายน 2001
HP ประกาศที่จะซื้อกิจการของ Compaq ในราคา $25 billion บริษัทใช้เวลาสำหรับการขอมติผู้ถือหุ้นเพื่อการอนุมัติการควบรวมถึง 8 เดือนจนสำเร็จในเดือน พฤษภาคม 2002

1.1 ผู้ก่อตั่ง
กำเนิดขึ้นโดยผู้ก่อตั้งเมื่อปี 1957 Bill Hewlett และ Dave Packard
ผู้ก่อตั้งบริษัทนำเสนอความคิดของเขาให้กับ Ben Rosen ประธานของ Sevin-Rosen Partners บริษัทเงินทุนสำหรับสินค้า high-tech กลุ่มนักลงทุนสนใจในความคิดเรื่อง คอมพิวเตอร์พกพานี้และตกลงอนุมัติเงินทุนให้กับบริษัทใหม่ Ben Rosen ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการจนกระทั่งเดือนกันยายน 2000 เมื่อ CEO Compaq Michael Capallas ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการด้วยมติเอกฉันท์

Compaq Computer Corporation เป็นผู้นำระดับโลกด้าน IT Products & Solution สำหรับลูกค้าระดับบริษัท Compaq เป็นผู้ออกแบบและพัฒนา ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์ IT, software, service, solutions รวมถึงการเก็บข้อมูลให้กับบริษัทใหญ่ๆ ชั้นนำ, computing solution, fault- tolerant business, critical solution, สินค้าด้านการสื่อสาร, personal desktop, notebook, personal entertainment, อุปกรณ์ internet โดยจำหน่ายในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกทั้งจากการจำหน่ายโดยตรงและผ่านเครือข่ายที่บริษัทแต่งตั้ง ข้อมูลและสินค้า บริการของ Compaq หาดูได้จาก http://www.compaq.com/

1.2 องค์กร
กลยุทธ์ของบริษัทคือนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการและ Solution ที่ใช้เทคโนโลยีสูงแต่ต้นทุนต่ำ และนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า พนักงานกว่า 150,000 คน ทำงานอยู่ในกว่า 170 ประเทศ และมียอดขายกว่า $79.9 billion ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2004

HP นำเสนอสิ่งเหล่านี้ในทุกช่องทางการตลาด

ระดับผู้บริโภค - เป็นผู้นำด้าน คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก(Handheld) Notebook, printer , digital camera ด้วยประสบการณ์อันน่าชมเชย

ระดับ SMB – นำเสนอสินค้าชั้นนำ solution และ บริการต่างๆ เพื่อให้เกิดความง่ายต่อการบริหารองค์การ

ระดับ Enterprise – ผลิตภัณฑ์ชั้นนำเต็มรูปแบบ รวมถึงการบริการเพื่อการพัฒนาองค์กร

ระดับ Public sector หน่วยงานด้านสุขภาพและการศึกษา เพื่อให้เกิดการบริหารงานที่มีต้นทุนต่ำและเพิ่มประสิทธิภาพ

HP ภูมิใจกับบุคลากรบริษัท มาตรฐาน คุณค่าและความผูกพันลึกซึ้งที่มีกับประชาคมโลก ตั้งแต่ HP ก่อตั้งมาในปี 1939 บริษัทตอบแทนสังคมด้วยเงินบริจาคทั่วโลกและมีส่วนร่วมผลักดันเศรษฐกิจของโลกผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ


2. สินค้าและบริการ

HP Integrity rx2600 server

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือกว่า RISC และ X86 แพลทฟอร์มของวันนี้

สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานให้พร้อมรองรับโปรเซสเซอร์ Intel Itanium 2 ในเวอร์ชั่นหน้าได้

สามารถเชื่อมโยงแพลทฟอร์มของปัจจุบันไปยังเจเนอเรชั่นใหม่ของมาตรฐานคอมพิวเตอร์ได้

แอพพลิเคชั่นของลูกค้าและ ISV สามารถรันบนเซิร์ฟเวอร์นี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนใดๆ

สามารถอินทริเกรทเซิร์ฟเวอร์ HP Integrity ลงบนสภาพแวดล้อมของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิมได้

เอชพีสามารถช่วยแนะแนวทางของการปรับเปลี่ยนระบบของ HP Integrity ได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย

HP 500 Notebook PC
ทุกชิ้นงานสำเร็จลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์>
จอแสดงผลขนาด 14 นิ้ว แบบ widescreen XGA มอบพื้นที่การรับชมที่กว้างยิ่งกว่า
เทคโนโลยีคุณภาพสูงด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Pentium M และ Celeron M พร้อมรับมือกับทุกชิ้นงานของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เข้าถึงการใช้งานอีเมล์และเชื่อมต่อเข้าสู่อินเตอร์เน็ตได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือที่สาธารณะที่มีการติดตั้งระบบ Wi-Fi



HP Compaq Business Notebook nc8000
ยกระดับรูปแบบชีวิตแบบโมบายล์ไปกับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP Professional ที่สามารถใช้งานได้ทันทีที่ติดตั้งเสร็จ
มีคุณสมบัติของการเพิ่มขยายการเชื่อมต่อและการใช้งานแบบโมบายล์ โดยให้คุณสามารถแอคเซสเข้าดูข้อมูลได้อย่างง่ายดาย และยังให้การสนับสนุนการอินทริเกรททั้งออพติคัลไดร์ฟและมัลติเบย์เข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงพอร์ตแบบครบชุด USB 2.0 และ IEEE 1394
HP ProtectTools Security Manager ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นละเมิดเข้ามาในระบบเครือข่ายหรือข้อมูลที่สำคัญของคุณได้

HP Compaq nc8230 Notebook PC
ลงตัวที่สุดด้วยการประมวลและแสดงผลกราฟฟิคระดับมืออาชีพ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ปฏิบัติงานต่อเนื่องได้ยาวนานสูงถึง 4 ชั่วโมงและสามารถชาร์จไฟเข้าได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี HP Fast Charge Technology ที่สามารถชาร์จไฟได้ 90% ภายในเวลา 90 นาที

สามารถตอบสนองแอพพลิเคชันการใช้งานด้านการประมวลผลและการแสดงผลภาพกราฟฟิคระดับสูงได้ผ่านทางจอแสดงผลขนาด 15.4 นิ้ว
มอบประโยชน์ใช้สอยสูงสุดให้กับผู้ใช้ด้วยไดร์ฟ MultiBay II ที่มีขนาดบางเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับสับเปลี่ยนออพติคัลไดร์ฟกับฮาร์ดไดร์ฟตัวที่สองได้ เพื่อเพิ่มความจุของสตอเรจและการสำรองข้อมูล

สามารถทำงานด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ด้วยเสารับสัญญาณคู่ที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวางใจได้ในเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ
มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี โดย HP ProtectTools จะช่วยป้องกันมิให้ผู้ที่มิได้รับอนุญาตแอคเซสเข้ามายังระบบเครือข่าย หรือสามารถเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดของคุณได้

HP Compaq nc6230 Notebook PC
พกพาสะดวกในทุกที่พร้อมรับประสิทธิผลของงานสูงสุด

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

พร้อมเดินทางไปกับผู้ใช้ในทุกที่ทุกโอกาส ด้วยลักษณะพิเศษที่เบาและบางเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้ยังให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนออพติคัลไดร์ฟมัลติเบย์ ที่มีน้ำหนักเบากว่า เพื่อให้การเดินทางของคุณคล่องตัวสูงสุด

ดูแลความปลอดภัยให้ด้วย HP ProtectTools ที่จะช่วยมิให้บุคคลที่มิได้รับอนุญาตบุกรุกเข้ามาภายในระบบเครือข่ายหรือสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ได้ และยังให้สิทธิแก่ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถจัดวางระบบโซลูชันด้านความปลอดภัยได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

ใช้งานได้ง่ายด้วย touchpad แบบเลื่อนขึ้นลง ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลและเว็บเพจได้อย่างคล่องตัว พร้อมด้วยระบบเซ็นเซอร์โดยรอบที่จะช่วยปรับการแสดงผลเพื่อให้การรับชมของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

วางใจได้ในการใช้งาน เพราะได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานต่อทุกธุรกิจ โดย HP Mobile Data Protection System จะช่วยปกป้องฮาร์ดไดร์ฟจากแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของข้อมูลภายใน

HP Compaq Tablet PC tc1100
ประสิทธิภาพเหนือขีดจำกัดพร้อมตอบรับทุกวิถีทางการปฏิบัติงานแบบโมบายล์

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มาตลอดอย่าง Intel Pentium M และ Celeron ที่ให้กำลังในการปฏิบัติงานสูง แต่ใช้พลังงานต่ำ และหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นได้สูงสุดถึง 2GB

ประกอบด้วยระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP Tablet PC Edition

มีการปรับปรุงจอแสดงผลและมุมมองในการรับชมภาพที่ 160 องศาบนเครื่องที่ใช้โปรเซสเซอร์ Pentium M ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

พบกับประสบการณ์จากภาพกราฟฟิคที่ดียิ่งกว่าเคยด้วยหน่วยความจำที่รองรับได้ถึง 32MB

เพิ่มเติมระบบหน่วยความจำได้สูงสุด 2 GB

HP Compaq Tablet PC tc4200
เป็นเจ้าของความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อชีวิตแบบโมบายล์

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ตอบสนองรูปแบบการใช้งานแบบโมบายล์ได้สูงสุด ด้วยแบตเตอรี่ HP Travel Battery ซึ่งมีอายุการใช้งานได้นาน 5 1/2 ชั่วโมง และสามารถชารจ์
ไฟเข้าได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีของ HP Fast Charge Technology ที่สามารถชาร์จไฟเข้าได้สูงถึง 90% ภายในเวลา 90 นาที

จอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.1 นิ้ว มีมุมมองการรับชมที่กว้าง และสามารถป้องกันแสงที่ส่องสว่างเข้าตาได้

ประกอบด้วยปากกาสำหรับลบคำผิดที่สามารถดึงออกมาใช้งานและเก็บเข้าที่ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้การเขียนบันทึกของคุณทำได้อย่างคล่องแคล่วยิ่งขึ้น

ด้วยคุณสมบัติของ HP ProtectTools ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการรักษาความปลอดภัยให้กับ Tablet PC tc4200 มิให้มีการแอคเซสเข้ามายังระบบเครือข่ายหรือข้อมูลทางธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดโดยที่มิได้รับอนุญาตได้

HP Compaq dc7700p Small Form Factor Desktop PC
ไร้ขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

เทคโนโลยี Intel vPro สนับสนุนการบริหารจัดการ และเทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัย

ซอฟท์แวร์ HP ProtectTools และ RAID1 ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลได้อย่างครอบคลุม และกู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

รองรับระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows XP Professional SP2, Microsoft Windows XP Home SP2และ FreeDOS


HP dx5150 Small Form Factor Desktop PC
อัดแน่นด้วยคุณสมบัติที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

ระบบปฏิบัติการสามารถเลือกใช้ Microsoft Windows XP Professional SP2 หรือ Microsoft Windows XP Home Sp2

โปรเซสเซอร์สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น AMD Athlon 64 หรือ Sempron พร้อมด้วยเทคโนโลยี HyperTransport

ความสามารถในการบริหารจัดการ ประกอบด้วย HP Client Manager และ Altiris Deployment Solution Agent

ความสามารถในการเพิ่มขยาย ประกอบด้วยเบย์ 3 ไดร์ฟ สล็อต PCI 2 สล็อต สล็อต x1 PCI Express 1 สล็อต สล็อต PCI Express 16 สล็อต และพอร์ต USB 2.0 8 พอร์ต

ขนาดกะทัดรัดเพียง 13.3x15.1x3.95 นิ้ว

HP Photosmart 8030 Photo Printer
ชื่นชมงานพิมพ์สีสันสดใสคมชัดจากฝีมือคุณเองได้ด้วยวิธีง่ายๆ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

สามารถรับชมภาพถ่ายผ่านทางจอแอลซีดีสีขนาด 1.8 นิ้วได้ รวมถึงยังสามารถแก้ไขและตกแต่งภาพถ่ายผ่านทางหน้าจอนี้ได้อีกด้วย จึงไม่ต้องพึ่งพาการใช้งานเครื่องพีซีอีกต่อไป

พิมพ์ภาพถ่ายสีสันสดใส สมจริง ติดทนนาน ไม่ซีดจางได้ ในขณะเดียวก็สามารถพิมพ์เอกสารในคุณภาพระดับเครื่องเลเซอร์ได้

รับชมภาพจากการ์ดหน่วยความจำได้โดยตรงจากหน้าจอแสดงผลสี รวมถึงสามารถสั่งพิมพ์จากกล้องถ่ายรูปที่มีโปรแกรม PictBridge หรือโทรศัพท์ที่ติดกล้องได้




HP Photosmart D6160 Printer
ความเร็วระดับโลกพร้อมด้วยคุณภาพที่ไม่เป็นรองใคร

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

พิมพ์ภาพถ่ายขนาด 4x6 นิ้วภายในเวลา 12 วินาที

พิมพ์งานเอกสารขาวดำได้เร็ว 32 แผ่นต่อนาที และ 31 แผ่นต่อนาทีสำหรับงานสี

เทคโนโลยีของหมึกสี Vivera 6 สี ทำให้สามารถพิมพ์ภาพได้เสมือนจริง บนความละเอียดสูงสุด 4800 จุดต่อนิ้วได้
สั่มพิมพ์งานได้โดยตรงจากพอร์ตยูเอสบีและเทคโนโลยีบลูธูท

HP Jetdirect en3700 Fast Ethernet external print server
มอบความสามารถในการแชร์พรินเตอร์ได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

สามารถทำงานข้ามแพลทฟอร์มได้ เพราะไม่เพียงแต่จะมีการใช้งานในรูปแบบอีเธอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังคงการทำงานแบบเน็ตเวิร์คไว้เช่นกัน ผู้ใช้งานจึงสามารถแชร์เครื่องพรินเตอร์ของเอชพีและฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การสแกน การทำสำเนา และการพิมพ์ ได้อย่างไร้ขีดจำกัดบนสภาพแวดล้อมโปรโตคอลเน็ตเวิร์คที่หลากหลาย

รองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ผู้ใช้จึงสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายฟาสต์อีเธอร์เน็ตที่รันบน Microsoft, Apple, Novell, Linux และ OS/2 ได้

สามารถอัพเกรดหน่วยความจำและเฟิร์มแวร์ได้อย่างรวดเร็ว

ได้รับการออกแบบมาให้มีขนาดที่เหมาะสมแก่การติดตั้งได้ทุกที่

ไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากไปกับการบริหารจัดการ ด้วยการใช้ HP Web Jetadmin และเว็บเซิร์ฟเวอร์ ผู้ดูแลระบบก็สามารถติดตั้ง คอนฟิก และจัดการกับพรินเตอร์เครือข่ายได้โดยตรงจากระยะไกล

มีระบบการรักษาความปลอดภัยคุณภาพสูง ประกอบด้วยการคอนฟิกการปกป้องรหัสผ่าน, Secure Sockets Layer (SSL) และ Simple Network Management Protocol (SNMP) v3.0


HP digital projector mp3130 เ
พียบพร้อมทุกการใช้งานเพื่อการทำพรีเซนเทชั่นอย่างมืออาชีพ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

รวมเอาทุกสรรพคุณที่จำเป็นต่อการใช้งานไว้ในโปรเจ็คเตอร์นี้ พร้อมด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัดจึงไม่เป็นภาระของคุณในการพกพาไปในที่ต่างๆ

เพลิดเพลินไปกับการนำเสนองาน ให้คุณผ่านพ้นช่วงกลางของการรายงานที่สำคัญไปได้อย่างราบรื่น ปราศจากการกระตุกหรือหยุดนิ่งอย่างกระทันหัน เพียงแค่ก่อนเริ่มการนำเสนองานให้เซ็ทภาพให้อยู่ที่แนวราบเท่านั้น โปรเจ็คเตอร์นี้จะจัดภาพให้อยู่ในแนวตั้งได้โดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยง keystone correction

ด้วยเทคโนโลยี DLP จะช่วยควบคุมผลการแสดงภาพที่ปรากฎบนหน้าจอมีความชัดเจน สีสวยสมจริง ไม่มีการซีดจางหรือเลอะเลือน

ให้คุณสามารถนำเสนองานได้อย่างมืออาชีพ ด้วยความสว่าง ANSI 1800 ลูเมนส์ และมีอัตราความคมชัด razor-sharp 2000:1

ด้วยการ์ดหน่วยความจำ CompactFlash ให้คุณสามารถบันทึกและเก็บงานพรีเซนเทชั่นของคุณไว้กับตัวได้ โดยไม่ต้องพึ่งพิงการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์อีกต่อไป เพราะคุณสามารถจะพกพาเพียงเครื่องโปรเจ็คเตอร์นี้จากออฟฟิศของคุณไปยังสนามบินและเข้าสู่ห้องประชุมภายในโรงแรม พร้อมการ์ดหน่วยความจำที่คุณได้เก็บงานของคุณไว้ ไม่จำเป็นที่จะต้องแบกสัมภาระมากมายให้หนักมืออีกต่อไป เพราะเพียงแค่โปรเจ็คเตอร์ mp3130 และออพชั่นสมาร์ทโมดูลเท่านั้นที่จำเป็นสำหรับคุณ

ด้วยความสามารถที่เหนือชั้นนี้จึงช่วยไม่ให้คุณต้องอยู่โยงเฝ้าออฟฟิศหรือที่ไหนๆ อีกต่อไป เพราะออพชั่นไวร์เลสที่ให้มาพร้อมกับสมาร์ทโมดูลจัดได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด ให้คุณสามารถใช้งานแบบโมบายล์ได้อย่างสมบูรณ์แบบเพราะเคลื่อนย้ายได้ง่ายอีกทั้งยังสามารถติดตั้งเครื่องให้พร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าคุณจะใช้การพรีเซนเทชั่นผ่านทางไฟล์พาวเวอร์พอยต์ด้วยรูปแบบของแผนภูมิและกราฟหรือวิดีโอ คุรก็จะได้รับภาพที่สวยคมชัดสดใสที่สุด


HP Storage Works DAT 72 USB Tape Drive
ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับการสำรองข้อมูลในองค์กรขนาดเล็ก

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

อินเตอร์เฟส USB 2.0 ทำให้สามารถทำงานอยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากได้ด้วยการเชื่อมต่อแบบ universal USB 2.0 และยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายเพราะสามารถติดตั้งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วภายใน 60 วินาที

ประหยัดค่าใช้จ่ายของตลับเทปได้สูงสุดไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีใดๆ

สามารถวางใจได้ในมาตรฐานเทคโนโลยี DDS

มีความจุ 36GB ซึ่งเพียงพอต่อการสำรองข้อมูลในองค์กรที่มีเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชันขนาดเล็ก

อัตราการถ่ายโอนข้อมูล 10GB ต่อชั่วโมงให้คุณถ่ายโอนข้อมูลจำนวนมากได้ภายในเวลา 4 ชั่วโมง

HP iPAQ hw6965 Mobile Messenger
ให้โลกของการสื่อสารอยู่ในอุ้งมือของคุณตลอดเวลา

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

มาพร้อมด้วยคุณสมบัติและโซลูชันที่จำเป็นอันโดดเด่น เพื่อตอบสนองการใช้งานด้านอีเมล์และการรับส่งข้อความแบบโมบายล์

สามารถอ่าน โต้ตอบและใช้งานอีเมล์ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ในยามเดินทางหรือในห้องประชุมอันยาวนาน เพื่อให้งานของคุณเดินหน้าต่อไปได้อย่างเต็มที่

ธุรกิจไม่ขาดช่วงแน่นอน แม้ว่าตัวคุณจะไม่ได้นั่งอยู่ที่ออฟฟิศก็ตาม เพราะคุณยังสามารถใช้งานอีเมล์ โทรศัพท์ และเข้าถึงข้อมูลสำคัญทางธุรกิจได้อย่างปลอดภัย
สื่อสารอย่างฉับไวด้วยการรับส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ทุกการตัดสินใจทางธุรกิจของคุณเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที

3. ประโยชน์ขององค์กรที่มีต่อสังคม

HP ภูมิใจกับบุคลากรบริษัท มาตรฐาน คุณค่าและความผูกพันลึกซึ้งที่มีกับประชาคมโลก ตั้งแต่ HP ก่อตั้งมาในปี 1939 บริษัทตอบแทนสังคมด้วยเงินบริจาคทั่วโลกและมีส่วนร่วมผลักดันเศรษฐกิจของโลกผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ

นำเสนอการบริการที่มีคุณภาพให้กับธุรกิจในด้าน Computing Solution

Compaq Mission Statement

ประกอบและจำหน่าย ระบบ PC และ Solution ที่มีคุณภาพให้กับหน่วยงานรัฐ บริษัท หน่วยงานพาณิชย์และผู้ใช้ตามบ้าน

พัฒนาตลาดที่มีอยู่ในรูปแบบของผู้ชำนาญการด้านตลาดเฉพาะส่วนด้วย Microsoft NT Multimedia applications, Color Imaging applications, Accounting application, Internet access

พัฒนาต่อเนื่องสำหรับการขายและบริการที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพสำหรับ Note Book และ Printer

นำเสนอเทคโนโลยีสูงสุดและการบริการยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องนำเสนอความแตกต่างสำหรับตลาดเป้าหมายที่เกี่ยวเนื่องกัน ทรัพยากรที่ยอดเยี่ยมด้าน Technical Support & System Development

ที่มา http://www.hp.co.th/

PC 64 Bit

บทนำ

คอมพิวเตอร์แบบ 64 bit นี้ถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนที่สถาปัตยกรรมแบบ 32 bit
ซึ่งเทคโนโลยีแบบ 64 bit นี้การรับส่งข้อมูลจะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น การประมวลผลรวดเร็ว
ยิ่งกว่าเดิม และเมนบอร์ดนี้ยังมีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าได้กับทุกระบบอีกทั้งยังรองรับสถาปัตยกรรมแบบ 64 bit และ 32 bit อีกด้วย

ความหมายและความเป็นมาของ คอมพิวเตอร์

เมื่อพิจารณาศัพท์คำว่า คอมพิวเตอร์ ถ้าแปลกันตรงตัวตามคำภาษาอังกฤษ จะหมายถึงเครื่องคำนวณ ดังนั้นถ้ากล่าวอย่างกว้าง ๆ เครื่องคำนวณที่มีส่วนประกอบเป็นเครื่องกลไกหรือเครื่องไฟฟ้า ต่างก็จัดเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งสิ้น ลูกคิดที่เคยใช้กันในร้านค้า ไม้บรรทัด คำนวณ (slide rule) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือประจำตัววิศวกรในยุคยี่สิบปีก่อน หรือเครื่องคิดเลข ล้วนเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด

ในปัจจุบันความหมายของคอมพิวเตอร์จะระบุเฉพาะเจาะจง หมายถึงเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์

ลักษณะวิธีการทำงานภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจ แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. แอนะล็อกคอมพิวเตอร์ (analog computer) เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้ค่าตัวเลขเป็นหลักของการคำนวณ แต่จะใช้ค่าระดับแรงดันไฟฟ้าแทน ไม้บรรทัดคำนวณ อาจถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของแอนะล็อกคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ค่าตัวเลขตามแนวความยาวไม้บรรทัดเป็นหลักของการคำนวณ โดยไม้บรรทัดคำนวณจะมีขีดตัวเลขกำกับอยู่ เมื่อไม้บรรทัดหลายอันมรประกบรวมกัน การคำนวณผล เช่น การคูณ จะเป็นการเลื่อนไม้บรรทัดหนึ่งไปตรงตามตัวเลขของตัวตั้งและตัวคูณของขีดตัวเลขชุดหนึ่ง แล้วไปอ่านผลคูณของขีดตัวเลขอีกชุดหนึ่งแอนะล็อกคอมพิวเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์จะใช้หลักการทำนองเดียวกัน โดยแรงดันไฟฟ้าจะแทนขีดตัวเลขตามแนวยาวของไม้บรรทัด

แอนะล็อกคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกส่วนทำหน้าที่เป็นตัวกระทำและเป็นฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ จึงเหมาะสำหรับงานคำนวณทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่อยู่ในรูปของสมการคณิตศาสตร์ เช่น การจำลองการบิน การศึกษาการสั่งสะเทือนของตึกเนื่องจากแผ่นดินไหว ข้อมูลตัวแปรนำเข้าอาจเป็นอุณหภูมิความเร็วหรือความดันอากาศ ซึ่งจะต้องแปลงให้เป็นค่าแรงดันไฟฟ้า เพื่อนำเข้าแอนะล็อกคอมพิวเตอร์ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นแรงดันไฟฟ้าแปรกับเวลาซึ่งต้องแปลงกลับไปเป็นค่าของตัวแปรที่กำลังศึกษา

ในปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นแอนะล็อกคอมพิวเตอร์เท่าไรนักเพราะผลการคำนวณมีความละเอียดน้อย ทำให้มีขีดจำกัดใช้ได้กับงานเฉพาะบางอย่างเท่านั้น

2. ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) คอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน จัดเป็นดิจิทัลคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด ดิจิทัลคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานเกี่ยวกับตัวเลข มีหลักการคำนวณที่ไม่ใช่แบบไม้บรรทัดคำนวณ แต่เป็นแบบลูกคิด โดยแต่และหลักของลูกคิดคือ หลักหน่วย หลักร้อย และสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นระบบเลขฐานสินที่แทนตัวเลขจากศูนย์ถ้าเก้าไปสิบตัวตามระบบตัวเลขที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ค่าตัวเลขของการคำนวณในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะแสดงเป็นหลักเช่นเดียวกัน แต่จะเป็นระบบเลขฐานสองที่มีสัญลักษณ์ตัวเลขเพียงสองตัว คือเลขศูนย์กับเลขหนึ่งเท่านั้น โดยสัญลักษณ์ตัวเลขทั้งสองตัวนี้ จะแทนลักษณะการทำงานภายในซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่ต่างกัน การคำนวณภายในดิจิทัลคอมพิวเตอร์จะเป็นการประมวลผลด้วยระบบเลขฐานสองทั้งหมด ดังนั้นเลขฐานสิบที่ใช้และคุ้นเคยจะถูกแปลงไปเป็นระบบเลขฐานสองเพื่อการคำนวณภายในคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังเป็นเลขฐานสองอยู่ ซึ่งคอมพิวเตอร์จะแปลงเป็นเลขฐานสิบเพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่าย

วิวัฒนาการคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์ยุคแรก

อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)


มาร์ค วัน

อีนิแอค


ยูนิแวค



คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง



คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน

คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม

คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ในการกำหนดชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง



คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่


คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมากทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวาง


คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า

คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการ ด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจัง

ประวัติของ CPU จาก 8 บิต ถึง 64 บิต

หัวใจในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์คือ CPU เพราะการประมวล การสั่งการให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานก็ขึ้นอยู่กับ CPU นี่แหละ ถ้า CPU ทำงานได้เร็ว เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็พลอยทำงานเร็วไปด้วย และในปัจจุบันนี้ การที่จะบอกประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็บอกถึงตัว CPU ที่ใช้นี่แหละ เป็นตัวบอก


8086, 8088
CPU สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ ตระกูล PC ตัวแรกเป็นผลผลิตของบริษัท Intel ยักษ์ใหญ่มือวางอันดับหนึ่งของวงการ CPU นั้นเอง โดยบริษัท IBM นำมาใช้กับเครื่อง PC ในตระกูล IBM PC หรือที่รู้จักกันในนาม XT และ CPU ตัวนี้ก็เป็นต้นแบบของ CPU ในสถาปัตยกรรม X86 ที่ Intel หรือแม้บริษัทอื่น นำมาผลิต CPU ที่ใช้กับเครื่อง PC จนถึงปัจจุบันนี้ (ยกเว้นก็แต่ตัว Intel เอง ซึ่งผลิต CPU ขนาด 64 บิต ที่ไม่ใช้สถาปัตยกรรม X86) 8088, 8086 เป็น CPU ที่ประมวลผลทีละ 8 บิต มีชุดคำสั่ง 76 คำสั่ง ระบบปฏิบัติการที่สนับสนุน CPU ตัวนี้ก็คือ DOS อันเลื่องชื่อของไมโครซอฟท์ นั้นเอง


80286
ยุคเริ่มต้น CPU ขนาด 16 บิตเริ่มจาก CPU ตัวนี้แหละ โดยมีโหมดการทำงานอยู่ 2 โหมด คือ Standard mode และ Protected mode (ระบบปฏิบัติการ Windows ที่ทำงานบนเครื่อง 286 จะทำงานใน Standard mode)


80386
เป็น CPU เบอร์แรกที่ประมวลผลทีละ 32 บิต ทำให้สามารถจัดการหน่วยความจำได้ดีกว่า 80286 มาก แม้ว่า 80386 จะประมวลผลได้คราวละ 32 บิตก็ตาม แต่อุปกรณ์ต่างๆ ในเวลานั้นยังเป็นแบบ 16 บิตอยู่มาก Intel จึงได้ออกแบบ 80386SX ที่สามารถนำไปใช้กับเมนบอร์ดที่ออกแบบมาสำหรับ 80286 ได้ทันที นอกจากนี้ 80386SX ยังมีราคาถูกว่า 80386 อยู่มาก


80486
ความจริงก็คือ 80386 รุ่นปรับปรุงนั้นเองโดยได้เพิ่มตัวประมวลผลทางคณิตศาสตร์ (Math co-pocessor) เพิ่มหน่วยความจำ Cache ภายใน CPU ทำให้ 80486 ทำงานได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เนื่องจากว่า 80486 ที่มี math co-processor มีราคาค่อนข้างสูง Intel จึงได้ออก CPU 80486SX ซึ่ง ได้ถอด math co-processor ออก (ตัว 80486 ที่มี math co-processor เรียกว่า 80486DX) ทำให้มีราคาถูกลง ตัว 80486 เองได้มีการปรับปรุงขึ้นมาอีกขั้นขึ้นการทำงานในลักษณะที่เรียกว่า Clock doubling คือ เป็นการเพิ่ม Speed ของ Clock ให้สูงขึ้น เช่น 80486DX/2 ทำงาน Clock speed 40/50/60 MHz 80486DX4 ทำงานที่ Clock speed 100 MHz เป็นต้น จากการที่ Clock speed สูงขึ้น บวกกับการที่ได้เพิ่มอุปกรณ์บางอย่างเช่น หน่วยความจำแคชที่มากขึ้น ทำให้ CPU รุ่นนี้ได้รับความนิยมอยู่เป็นเวลานาน และทำให้มีบริษัทอื่น นอกจาก Intel เริ่มเข้ามาผลิต CPU สำหรับ PC ออกมาแข่งขันกัน ได้แก่ Cylix และ AMD เป็นต้น


Pentium
เนื่องจากเริ่มมีบริษัทอื่นๆ ผลิต CPU สำหรับ PC ออกมาแข่งขันกับ Intel จึงทำให้ CPU รุ่นถัดมาของ Intel ไม่ใช้ชื่อเรียกเป็นหมายเลข ใช้เป็นชื่ออื่นแทน หลายท่านคงมีความเข้าใจ Pentium เป็น CPU ขนาด 64 บิต แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เนื่องจาก Pentium จะออกแบบมาคล้ายๆ กับใช้ 80486 สองตัวทำงานคู่ขนานกัน ทำให้กลไกการทำงานทั้งภายในและนอกตัว CPU เป็น 64 บิตไปโดยปริยาย CPU ของค่ายอื่นที่ออกมาในช่วงนี้ ก็มี AMD K5, Cylix 6x86

Pentium MMX, AMD K6 3DNOW, Cylix 6X86MX
ก็คือ Pentium ที่เพิ่มความสามารถในเชิงมัลติมิเดีย (MMX สำหรับ Pentium, 3DNOW สำหรับ AMD) และนอกจากนี้ยังได้เพิ่ม หน่วยความจำแคช Level 2 เข้ามาในตัว CPU มากน้อยแตกต่างกันในแต่ละค่าย
Celeron, PentiumII, Pentium III จะมีการเพิ่มส่วนขยาย MMX ออกไป ปรับสถาปัตยกรรมภายในใหม่ ทำให้มีการประมวลผลในเชิงจุดทศนิยมได้ละเอียดและถูกต้องมากขึ้น เพิ่มความสามารถในเชิง 3 มิติเข้าไป ส่วน Celeron จะมีคุณสมบัติอื่นๆ เหมือนกับ Pentium เพียงแต่ตัด L2 (หน่วยความจำแคช ระดับ2) ออกไปให้น้อยกว่า หรือไม่มีเลยในบางรุ่น ส่วน CPU ของค่ายอื่นๆ ก็ปรับปรุงขึ้นเป็น AMD K6, AMD K7 ตามลำดับ นอกจากนี้ CPU ในตระกูลเหล่านี้ยังสามารถทำงานกับ Clock speed สูงๆ ได้ 600 - 700 MHz เลยที่เดียว (แล้วแต่รุ่นของ CPU)


Intel Itanium และ AMD Sledgehammer
Intel ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการให้กับ CPU 64 บิตของตัวเองว่า Itanium ซึ่ง Intel คาดว่าจะสามารถวางจำหน่าย Itanium ได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2001 และมีเป้าหมายจะเข้ามาแทนที่ Pentium III Xeon ที่ใช้กับเครื่อง Server หรือ Workstation ระดับสูงมากๆ นักสังเกตคาดว่า ความเร็วของ Itanium รุ่นแรกๆ จะอยู่ที่ 733 MHz ซึ่งน่าผิดหวังเมื่อเทียบกับ Pentium รุ่นปัจจุบันที่ทำความเร็วได้มากกว่า 1 GHz แต่อย่างไรก็ตามด้วยสถาปัตยกรรมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงของ Itanium ทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้กับ Pentium ด้วยวิธีการเดิมๆ
ถึงแม้ความเร็วเริ่มต้นของ Itanium จะน้อยกว่าแต่ Intel ก็ได้ออกแบบให้ Itanium ทำงานกับเลขทศนิยม 6 ล้าล้านคำสั่งต่อวินาที หรือ 6G FLOPS (6 billion floating-point operation per second) Itanium จะมีหน่วยคำนวณเลขจำนวนเต็ม (Integer Unit) 4 ตัว และหน่วยคำนวณเลขทศนิยม (Floating Point Unit) 2 ตัว มีแคช L1 32KB L2 96KB และสามารถเข้าถึง แคช L3 จากภายนอกได้ถึง 4MB มีรีจีสเตอร์ 128 ตัว และนอกจากนี้ Itanium ยังถูกออกแบบวงจร 0.18 ไมครอน และเป็น CPU แบบ Slot M โดยจะมี Clock Speed ของ Main board ที่ 266 MHz และนอกจากนี้ Intel ยังไม่ใช้สถาปัตยกรรม X86 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบดั่งเดิมของตัวเองอีกต่อไป

เนื่องจาก ไม่ใช้สถาปัตยกรรม X86 Intel จึงได้ออกแบบ Itanium ให้มี X86 ฮาร์ดแวร์อีมูเลชั่น เพื่อให้ Itanium ทำงานได้กับ Software ที่ยังคงใช้ชุดคำสั่ง X86 ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

AMD Sledgehammer
AMD Sledgehammer ได้วางเป้าหมายไว้ที่ตลาดระดับกลางและล่างของ Server PC รวมไปถึง ไฮเพาเวอร์เวิร์กสเตชั่น โดยยังคงรักษาความเข้ากันได้กับชุดคำสั่ง X86 และยังวางแผนที่ขยายสถาปัตยกรรมของตัวเองให้ก้าวไปสู่ 64 บิต โดยสถาปัตยกรรม X86-64 ของ AMD เอง มีการคาดกันว่า Sledgehammer ตัวแรกจะมีความเร็วมากกว่า 1 GHz และ AMD วางแผนที่จะจำหน่าย Sledgeham ตัวแรกในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2001 Sledgehammer มีรีจีสเตอร์สำหรับคำนวณเลขทศนิยม 16 ตัว มีรีจีสเตอร์สำหรับงานทั่วไป (General-purpose register GPR) 16 ตัว มีแคช L1 128KB L2 512 - 2MB เป็น CPU แบบ socket A ใช้ Main board ที่มี Clock Speed 266 MHz และออกแบบวงจรขนาด 0.13 ไมครอน และใช้การเชื่อมต่อโดยทองแดงในขบวนการผลิต

สินค้า

Atec Power 64-Bit
Atec Premier 64-Bit
Atec X-zite NX7300GT
Atec X-zite NX7600GT
Belta Cyclops E280L
Belta OXY S4 G 826
Belta OXY S4 E280
Belta OXY S4 G 934
Belta OXY S4 E6300
Belta OXY S4 G 828
Belta OXY S4 G 828
Belta SPHERE II 3283
Belta SPHERE II 3283
Belta SPHERE II 3283
Belta SPHERE II G 826
NEC POWERMATE MT 5001 AF
NEC POWERMATE MT 5001 AF
NEC POWERMATE MT 6001 AF
NEC POWERMATE MT 6001 AF
NEC POWERMATE MT 6501 AF
NEC POWERMATE DL T8000W
Hewlett-Packard Desktop DX2100
Hewlett-Packard DX5150
Hewlett-Packard Pavilion A1575L
Hewlett-Packard Pavilion A1582L
Hewlett-Packard Pavilion A1586L
Hewlett-Packard pavilion a1588L
Hewlett-Packard Pavilion A1591L
Hewlett-Packard Pavilion G1250L
Hewlett-Packard Pavilion G1260L
Hewlett-Packard Pavilion G1265L
Hewlett-Packard Pavilion S7550D
Hewlett-Packard Pavilion W5560D
Hewlett-Packard Pavillion M7590D
IBM Lenovo Think Center A52
IBM Lenovo Think Center E50


การบริการ
โดยเราได้เลือกใช้เครื่อง Server ที่มีคุณภาพมาใช้งาน
• เพื่อให้สมาชิกสามารถได้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ รวดเร็ว ในการใช้งานในราคาที่ประหยัดขึ้น
• ด้วยเครื่อง Server Processor Intel Pentium D (Dual Core) 3.0 GHz
• Ram DDR2 2GB
• สมาชิกจึงมั่นใจและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แน่นอน
สินค้าทุกชิ้นใหม่ มีประกันทุกชิ้น ต้องเลือกสินค้าจาก EC Service?
- เพราะมีจำหน่ายตั้งแต่เครื่องประกอบ
- เครื่อง Brand ดังอย่าง ACER, Compaq
- มีบริการจัดส่ง-ติดตั้ง ถึงที่ พร้อมบริการหลังการขายนอกสถานที่เวลาเกิดปัญหา เราจะไปหาท่าน ลูกค้าไม่ต้องยกเครื่องไปศูนย์ฯ เอง
- เพราะความน่าเชื่อถือ สำคัญ สินค้าทุกชิ้น มาจากศูนย์ที่ไว้ใจได้เรื่องบริการ เช่น D Computer, Com7, Synex, HP Thailand, Epson Thailand, ACER Thailand เราจึงมั่นใจได้ว่าเราบริการให้ท่านได้รวดเร็วกว่าในราคาที่ ประหยัด
- มีบริการ Service 7 วัน ไม่เว้นวันหยุดตั้งแต่เวลา 07.30น. - 21.30น.
- ติดต่อได้ง่ายทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์, มือถือสำหรับหน่วยบริการนอกสถานที่, email
- ยินดีรับคำติชม ไม่ดีจริง ด่าได้เลย
ประโยชน์ในการใช้ PC 64 บิตและข้อดีข้อเสีย

ประโยชน์
การรับส่งข้อมูลจะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น การประมวลผลรวดเร็ว
ยิ่งกว่าเดิม และเมนบอร์ดนี้ยังมีความยืดหยุ่นและสามารถเข้าได้กับทุกระบบอีกทั้งยังรองรับสถาปัตยกรรมแบบ 64 bit และ 32 bit อีกด้วย

ข้อดี
• ความสามรถในการใช้งานของเครื่องเป็นสองเท่าของ PC ธรรมดา
• สามารถรองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่น ทั้งแบบ 32 บิต และ 64 บิต และใช้กับซอฟแวร์ในปัจจุบันได้
• สามารถประมวลผลได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม
• สามารถใช้งานกับโปรแกรมที่มีการซับซ้อนและละเอียด เช่น การตัดต่ดเรื่องสั้น หรือ ภาพยนตร์แบบเป็นเรื่องราว

ข้อเสีย
• อุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยังมีราคาสูง
• ไม่สามารถทำงานบนเครื่อง PC 32 บิต แบบเต็มประสิทธิภาพ นอกจากจะต้องมีระบบปฏิบัติการที่ทำงานแบบ 64 บิต

สรุป
Pc 64 bit ความสามารถในการรองรับหน่วยความจำสูงสุดได้มากมายมหาศาลถึงประมาณ 16 EB (Exabytes) หรือประมาณ 16 ล้าน GB แล้วก็ยังช่วยให้การทำงานกับโปรแกรมหรืองานเกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดด้วย พีซีแบบ 64 บิตนั้นจะเปรียบได้เหมือนกับเป็นประตูสู่โลกอนาคตสำหรับบรรดานักโปรแกรมเมอร์มืออาชีพทั้งหลายที่จะได้เพิ่มโอกาส และศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลงานอันน่าตื่นตาตื่นใจให้เราได้เห็นกันอย่างแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด

บทที่ 1
บทนำ
1.1ภูมิหลังและความเป็นมา
บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด ได้เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 โดยคุณทรงชัย กำเนิดสิงห์และกลุ่มบุคคล ต่อมาจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก และได้ทำการจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด โดยใช้ชื่อว่า บริษัท มาววิสทรานสปอร์ตเตชั่น จำกัด เมื่อ วันที่ 24 มิถุนายน 2550 ด้วยทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 5 ล้านบาท ถือหุ้นโดยคุณทรงชัย กำเนิดสิงห์และบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจรถรับส่งนักเรียนและรถเช่าโดยสารไม่ประจำทาง บริษัทฯ ได้ให้บริการรถรับส่งนักเรียนให้แก่โรงเรียนนานาชาติต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งการให้บริการรถเช่าลูกค้าประเภทอื่นๆ เช่น บริษัท หรือบุคคลทั่วไป เป็นต้น จนทำให้ในปัจจุบันบริษัทได้รับความไว้วางใจ เป็นที่รู้จักและยอมรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ ดังนี้
ในปี 2550
- ทำสัญญาบริการรถรับส่งนักเรียนกับโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการประกอบธุรกิจ
- จดทะเบียนเป็นบริษัทในนาม บริษัท มาววิสทรานสปอร์ตเตชั่น จำกัด และเริ่มขยายงานรถรับส่งนักเรียนและงานรถโดยสารต่างๆ
- บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบวิทยุสื่อสาร เพื่อเป็นการสร้างประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัปตันรถ กับ หัวหน้างาน ผู้จัดการ และ เจ้าหน้าที่ที่สำนักงานใหญ่ และ ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่งในรถโดยสารทุกคันของบริษัท เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
- เริ่มดำเนินการใช้เครื่องวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ โดยตรวจกัปตันรถทุกคนก่อนการขับรถ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทฯ
- คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เยี่ยมชมดูระบบการจัดการของ
การจัดทำระบบการพัฒนาการจัดการบริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด เป็นการแนะนำถรทั่วร์นำเที่ยวโดย Microsoft Access 2003 และสามารกเก็บข้อมูลไว้ใน Database การแนะนำการเช่ารถทัวร์ในรูปแบบ Database เพื่อที่จะส่งเสริมให้นักศึกษาหรือคนทำงานที่สนใจรถทัวร์ได้ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆได้สะดวกและรวดเร็ว
เทคโนโลยีมีด้านคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องในส่วนที่ต้องการพัฒนาระบบไม่ว่าจะเป็นทางด้านคอมพิวเตอร์ที่ทำการใช้ในการวัดฐานข้อมูล การสร้าง เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีฮาร์แวร์มีสนับสนุนการทำงานการจัดทำการแนะนำรถทัวร์ ได้ทำอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยในจัดการซึ่งทำให้การแนะนำการรถทัวร์ให้เป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด พัฒนาระบบการพัฒนาการจัดการเที่ยวถผ่านทาง Microsoft Access 2003 ด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อสามารถที่จะช่วยให้บุคคลทั่วๆไปทราบว่าในกรุงเทพฯมีรถบริการให้เช่าที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ จากการแนะนำการเช่าไม่ได้หวังแต่จะให้มีคนมาใช้บริการเยอะแต่ต้องการให้คนที่เข้ามาใช้บริการมีความสุขเมื่อได้มาใช้บริการที่บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด ที่เรานำเสนอ

วัตถุประสงค์
1. เพื่อนำระบบคอมพิวเตอร์มาพัฒนาระบบการเช่า
2. เพิ่มลูกค้าให้มากขึ้น
3. เพื่อให้บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด เป็นที่รู้จักมายิ่งขึ้น
4. เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการค้นหาข้อมูล
5. เพื่อลดจำนวนพนักงาน
12. ขอบเขตการศึกษา
1. ศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดของลูกค้า
2. ศึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดของบริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด
3. ศึกษาเกี่ยวกับการเช่ารถ

1.3 ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. การใช้ระบบที่พัฒนาด้วยระบบคอมพิวเตอร์สามารถช่วยให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. สามารถเก็บข้อมูลการเช่าอย่างสะดวกและรวดเร็วได้ผลที่แม่นยำ
3. สามารถเก็บรายละเอียดได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้วิธีการจดบันทึกเหมือนเก่า
4. สามารถลดค่าใช้จ่ายในการจ้างคนงาน
5. มีลูกค้าสนใจที่จะเข้ามาเช่าเพิ่มขึ้น
6. กิจการมีรายได้เพิ่มจากเดิม

1.4 แผนการดำเนินงาน
1. การเลือกระบบงานที่ต้องการ โดยจะเลือกให้เข้ากับระบบการเช่า โดยใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่ 1. ของเดือนกรกฏาคม 2550 ถึงสัปดาห์ที่2 ของเดือน กรกฏาคม 2550
2. ศึกษาทฤษฎีและเทคโนโลยีที่ใช้ โดยจะศึกษาเกี่ยวกับระบบซอฟแวร์ต่างๆ ให้เข้ากับระบบการเช่าโดยจะใช้ระยะเวลา 3 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่ 2. ของเดือน กรกฏาคม 2550 ถึง สัปดาห์ที่4 ของเดือน กรกฏาคม 2550
3. การรวบรวมข้อมูล โดยจะหาข้อมูลเกี่ยวกับระบบการเช่าว่าใช้ระบบใดบ้างและจะมาเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้ระยะเวลา 3 สัปดาห์ คือสัปดาห์ที่ 1ถึงสัปดาห์ที่ 3ของเดือน สิงหาคม 2550
4. การวิเคราะห์ระบบงานปัจจุบัน โดยเราจะค้นคว้าว่าปัจจุบันนี้ บริษัท มาววิสทรานสปอร์ต จำกัด ใช้ระบบงานใดมากที่สุดโดยใช้ระยะเวลา 4 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่ 4. ของเดือน สิงหาคม 2550 ถึงสัปดาห์ที่ 3. ของเดือน กันยายน 2550
5. การออกแบบระบบใหม่ โดยเราจะนำระบบที่ใช้ในปัจจุบันมาพัฒนาเป็นระบบใหม่โดยสอดคล้องกับระบบการเช่าถรทัวร์ในปัจจุบัน โดยใช้ระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่ คือ สัปดาห์ที่ 4 ของเดือน กันยายน 2550 ถึงสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน พฤศจิกายน 2550
6. การพัฒนาการทดสอบระบบ โดยเราจะลองทดสอบระบบงานที่เราพัฒนาว่ามีข้อบกพร่องใดบ้างและทำการแก้ไข โดยใช้ระยะเวลา 8 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน พฤศจกายน 2550 ถึงสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน มกราคม 2550
7. การติดตั้งระบบ โดยนำระบบที่ได้พัฒนาแล้วไปติดตั้งเพื่อเตรียมการใช้งานต่อไป โดยใช้ระยะเวลา 4 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่ 1. ของเดือน มกราคม 2551 ถึงสัปดาห์ที่ 4. ของเดือน มกราคม 2551
8. การจัดทำเอกสาร โดยการนำข้อมูลทั้งหมดที่เราจัดทำมาเข้าเล่มทำเป็นรายงาน โดยใช้ระยะเวลา 29 สัปดาห์ คือ สัปดาห์ที่1 ของเดือน กรกฏาคม 2550 ถึงสัปดาห์ที่ 4. ของเดือนมกราคม 2551